นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากนายเกษมสันต์ มีทิพย์ อดีต สส.พรรคก้าวไกล เรื่องร้องเรียนพฤติกรรมประวิงเวลาเพื่อหลบเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง

วันพุธที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 09.40 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากนายเกษมสันต์ มีทิพย์ อดีต สส.พรรคก้าวไกล เรื่องร้องเรียนพฤติกรรมประวิงเวลาเพื่อหลบเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง อ้างถึงคดีอาญาที่ 1631/2565 ปจว.ข้อ 21 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2565 ข้อกล่าวหา หมิ่นประมาทโดย การโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรืออักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือกระจายภาพ หรือด้วยกระทำโดยการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น พนักงานสอบสวนผู้รับแจ้ง พ.ต.ท.ธนาพล เมฆบุตร ตนนายเกษมสันต์ มีทิพย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งความดำเนินคดี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขต 1 และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา มารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง ประมาณวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 หลังจากเปิดประชุมสภา สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 นายปดิพัทธ์ ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในฐานะสมาชิกรัฐสภา หลังจากปิดประชุมสภา สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ในวันที่ 21 ตุลาคม 2566 พนักงานสอบสวนลงความเห็นสั่งฟ้อง ได้ติดต่อนัดให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ทางวาจาโดยการโทรศัพท์ ให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำตัวส่งอัยการพร้อมสำนวนการสอบสวน ได้รับคำตอบจากนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าจะมาพบปลายเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยให้เหตุผลว่า ติดภารกิจ พนักงานสอบสวนประเมินว่าไม่สามารถนำตัวนายปดิพัทธ์เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ทัน จึงทำหนังสือเชิญให้นายปดิพัทธ์เข้าพบพนักงานสวนภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ก็ไม่ได้มาพบและไม่ได้ติดต่อมาสอบสวน พนักงานสอบสวนทำหนังสือเชิญให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา มาพบเป็นครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 นายปดิพัทธ์ ก็ไม่ได้มาพบและไม่ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวน จึงขอให้ประธานตรวจสอบพฤติกรรมของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป