รองประธานคณะ กมธ. การเกษตรและสหกรณ์ คนที่หนึ่ง รับยื่นหนังสือจากนายสุภาพ จันทร์ภิรมย์ ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัดสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 32564 เวลา 09.20 น. ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม รองประธานคณะ กมธ. การเกษตรและสหกรณ์ คนที่หนึ่ง รับยื่นหนังสือจากนายสุภาพ จันทร์ภิรมย์ ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัดสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อขอความเป็นธรรมและผลักดันร่างกฎกระทรวงที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้วเรื่องเสร็จที่ 1039-1043/2564 และการออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสหกรณ์(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาตรา 89/2 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 63 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงรวม 5 ฉบับ ประกอบด้วย 1. กฎกระทรวงกำหนดการให้เงินกู้และให้สินเชื่อของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 2. กฎกระทรวงกำหนดการรับฝากเงิน การก่อหนี้และการสร้างภาระผูกพัน ซึ่งรวมถึงการกู้ยืมเงินหรือการค้ำประกันของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 3. กฎกระทรวงการบริหารสินทรัพย์และการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของสหกรณ์ออมทรัพย์ 4. กฎกระทรวงการจัดชั้นสินทรัพย์และกันสำรองของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 5. กฎกระทรวงการกำกับการกระจุกตัวธุรกรรมทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการวมร่างกฎกระทรวงทั้ง 5 ฉบับ มารวมเป็นฉบับเดียวกันเรียกว่า "ร่างกฎกระทรวงการบริหารจัดการและการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. ...." โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจงพร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับร่างดังกล่าว และที่ประชุมหน่วยงานทั้งหมดเห็นชอบร่วมกัน และได้นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังมีหนังสือความเห็นแย้ง คณะรัฐมนตรีจึงส่งร่างกลับมายังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อแก้ไขร่างให้เป็นไปตามความเห็นของ 2 หน่วยงาน อย่างไรก็ตาม ทางสหกรณ์ฯ มีความเห็นตามร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว เนื่องจากหากเป็นไปตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังเสนอ จะส่งผลกระทบต่อประเภทสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนอย่างรุนแรง เนื่องจากสหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนี่ยนเป็นองค์กรทางการเงินและสวัสดิการ ซึ่งสมาชิกของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเป็นผู้ไม่มีรายได้ประจำ มีอาชีพที่หลากหลายและส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรวมทั้งชนเผ่าในพื้นที่สูง อีกทั้งประเภทสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนจะมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญซึ่งบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของสหกรณ์เป็นจำนวนมาก จะทำให้ประเภทสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนขาดทุนจากการบริหารงานทันทีกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นผลทำให้สมาชิกสหกรณ์ขาดความเชื่อมั่น ศรัทธา อาจมีการถอนเงินสะสมออกจากสหกรณ์เป็นจำนวนมาก ไม่ให้ความร่วมมือและทำธุรกรรมการเงินกับสหกรณ์ก่อให้เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงินทันที เกิดวิกฤตต้องเลิกกิจการหรือชำระบัญชีด้วยผลแห่งกฎกระทรวงดังกล่าว อีกทั้ง ร่างกฎกระทรวงเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ใช้บังคับสำหรับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ซึ่งไม่สอดคล้องกับลักษณะการดำเนินงานของประเภทสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ประกอบกับในปัจจุบัน การบัญชีของสหกรณ์ได้มีการออกระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ส่วงหน้าการออกกฎกระทรวงแล้ว ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารงานสหกรณ์ และอาจทำให้สมาชิกสหกรณ์ไม่สามารถกู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่ายอันจำเป็นหรือทำธุรกรรมการเงินกับสหกรณ์ได้ ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่หน่วยงานกำกับภาครัฐเข้มงวดในงบการเงินอันส่งผลให้สหกรณ์ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกเพื่อนำไปใช้จ่ายตามความจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในสภาวะปัจจุบันได้สหกรณ์ออมทรัพย์อย่างประจักษ์ชัดเจน