นายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน และคณะ เรื่อง ขอให้ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบการขอพระราชทานอภัยโทษลดโทษผู้ต้องโทษจำคุกคดีทุจริตคอร์รัปชัน

วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน และคณะ เรื่อง ขอให้ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบการขอพระราชทานอภัยโทษลดโทษผู้ต้องโทษจำคุกคดีทุจริตคอร์รัปชัน ตามที่มีประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. 2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งกระบวนการตราพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ให้มีมติทูลเกล้าฯ เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ในหมู่นักโทษที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ได้รับการพระราชทานอภัยโทษลดโทษในครั้งนี้ มีผู้ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชันที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุกรายละ 36 - 50 ปี และรับโทษจำคุกมาเพียง 2 – 4 ปี กลับได้รับการพระราชทานอภัยโทษลดโทษตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ นับตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2563 วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564 พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. 2563 พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564 และพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. 2564 รวม 4 ฉบับ มีผลให้ผู้ที่ถูกพิพากษาจำคุก 36 - 48 ปี เหลือวันต้องโทษ 6-10 ปี จะพ้นโทษ พ.ศ. 2566-2571 บางรายที่เกี่ยวข้องพ้นโทษจำคุกไปแล้วก็มี การที่ผู้ต้องโทษจำคุกถึงที่สุดในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประเทศชาตินับหลายแสนล้านบาท กว่าจะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีฟ้องร้องต่อศาล กว่าจะพิพากษาลงโทษได้ก็มีความยากลำบากและใช้เวลานาน แต่ผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงยุติธรรมกลับฉวยโอกาสวาระอันเป็นมหามงคลของชาติดำเนินการหลายขั้นตอน จนกระทั่งเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ให้ผู้ต้องโทษจำคุกถึงที่สุดในคดีทุจริตคอร์รัปชันได้รับการพระราชทานอภัยโทษลดโทษอย่างรวดเร็ว และใกล้จะพ้นโทษจำคุกในเวลาไม่นานนี้ ทั้งนี้คดีทุจริตคอร์รัปชันได้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างรุนแรงมาเป็นเวลานาน ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศชาติมากกว่าคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่เสียด้วยซ้ำ จึงมีความพยายามที่จะดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดต่อผู้กระทำความผิด เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลานานตามความร้ายแรงแห่งคดี แต่ผู้ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชันเหล่านี้กลับได้รับการพิจารณาให้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม และถูกจัดให้เข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ขัดต่อหลักนิติรัฐและนิติธรรมขัดต่อหลักการในรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า รัฐต้องดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน จึงขอกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรได้โปรดดำเนินการให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกขั้นตอนในการดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษลดโทษผู้ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชัน