นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธานคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และคณะ แถลงข่าวภายหลังการยื่นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม 2565 เวลา 13.45 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธานคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานคณะ กมธ. คนที่หก ศ.พิเศษกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ รองประธานคณะ กมธ. คนที่เจ็ด และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานคณะ กมธ. คนที่แปด และคณะ แถลงข่าวภายหลังการยื่นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ว่าขณะนี้ คณะ กมธ.ได้พิจารณาร่าง พ.ร.ป. ทั้งสองฉบับเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และได้นำเสนอทั้งสองร่างต่อประธานรัฐสภา พร้อมทั้งกราบเรียนประธานรัฐสภาว่า ขอให้พิจารณาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ คณะ กมธ. ได้ดำเนินการประชุมและได้มีการปรับแก้ไขหลังจากที่ประชุมมีมติรับหลักการ ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 3 เดือน และคณะ กมธ. ได้พิจารณาแล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ คณะ กมธ. เห็นว่าร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือในการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายทั้งสองดังกล่าวมีรายละเอียดจำนวนมาก และมีประเด็นที่สำคัญหลายประเด็น ในส่วนของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น คณะ กมธ. ได้มีการปรับแก้ไขในรายละเอียดทั้งสิ้น 37 มาตรา โดยคงร่างเดิมของคณะรัฐมนตรีไว้ 23 มาตรา มีการแก้ไขเพิ่มเติม 9 มาตรา และเพิ่มมาตราขึ้นใหม่ 5 มาตรา และในส่วนของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น มีรายละเอียดทั้งสิ้น 16 มาตรา โดยคงร่างเดิมของนายวิเชียร ชวลิต และคณะ ที่ได้เสนอ จำนวน 7 มาตรา มีการแก้ไขเพิ่มเติม 6 มาตรา และเพิ่มมาตราขึ้นใหม่ 3 มาตรา ทั้งนี้ หลังจากคณะ กมธ. ได้ยื่นร่างฯ ทั้งสองฉบับต่อประธานรัฐสภาแล้ว ประธานฯ ได้มีดำริว่าจะนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 9 - 10 มิ.ย. 65 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ ได้มีการหารือในเบื้องต้นระหว่างคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) คณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) และวุฒิสภาว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ มีความสำคัญและตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 81 กำหนดไว้ว่า ร่าง พ.ร.ป. และร่าง พ.ร.บ. จะตราขึ้นเป็นกฎหมายได้ ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภาก่อน จึงควรเร่งรัดให้ผ่านการพิจารณาในวาระที่สองและวาระที่สาม เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว โดยจะเสนอในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาให้เลื่อนร่าง พ.ร.ป. ทั้งสองฉบับขึ้นมาพิจารณาก่อนเรื่องที่ค้างพิจารณาอยู่ อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อหารือในรายละเอียดอีกครั้งก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา