|
|
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายสุทิน คลังแสง และ นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย รับยื่นหนังสือจาก นายประศาสตร์ ธุระนิตย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกก่อ อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม และคณะ เรื่อง เรื่อง ขอการสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนชีวมวลเพื่อประชาชน ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 28 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2566 |
|
|
|
|
วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.45 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายสุทิน คลังแสง และ นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย รับยื่นหนังสือจาก นายประศาสตร์ ธุระนิตย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกก่อ อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม และคณะ เรื่อง เรื่อง ขอการสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนชีวมวลเพื่อประชาชน ด้วยกลุ่มเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ "อีสานโมเดล" ของจังหวัดมหาสารคาม รวม 5 แห่ง ซึ่งได้ทำ MOU กับกลุ่มบริษัท สินสยาม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา บัดนี้ กลุ่มเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนฯ ได้จัดทำโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนชีวมวลเพื่อประชาชนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ได้มีประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมในพื้นที่โครงการให้ความสนใจประสงค์เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการอภิปรายเมื่อวันที่ 15 -16 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา นายสุทิน ได้ อภิปรายถึงประโยชน์ของโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีโอกาสได้รับการแบ่งปันรายได้โดยไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่อย่างใด ตลอดระยะเวลา 20 ปี ทำให้ประชาชนและประชาชนตำบลใกล้เคียงให้ความสนใจ ติดต่อขอเข้าร่วมโครงการมากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่ารูปแบบโครงการอีสานโมเดล ตนและคณะจึงแสดงความขอบคุณ นายสุทิน คลังแสง ที่ได้อภิปรายซี้ให้เห็นแนวทางแก้ไขปัญหาประชาชน กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม รับรู้ถึงโอกาสที่จะหลุดพันภาระหนี้สิน คนพื้นที่มีงานทำ เกิดธุรกิจใหม่ ๆ มีเงินสดหมุนเวียน การค้าขายจะเฟื่องฟู ลูกหลานจะอบอุ่น คนชราจะได้รับการดูแล หลังวันอภิปรายประชาชนชาวมหาสารคามได้มองเห็นภาพเหล่านี้อย่างชัดเจน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนชีวมวลเพื่อประชาชน จะได้รับการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมในเร็ว ๆ นี้ต่อไป นายสุทิน คลังแสง กล่าว ขอบคุณที่คณะวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศมีความแน่วแน่มุ่งมั่นที่จะผลักดันโครงการนี้ จากการศึกษาเห็นว่าโครงการนี้ดีมากเพราะจะทำให้เกิดเศรษฐกิจชุมชนที่มีพลัง เป็นการทำให้เศรษฐกิจฐานราก ทำให้ชุมชนมีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นและโรงไฟฟ้านั้นจะเป็นของชุมชนและเมื่อเป็นของชุมชนแล้วชุมชนจะได้ปันผลกำไรจากโรงไฟฟ้าและที่สำคัญคือวัตถุดิบเชื้อเพลิง คือต้นไม้ที่นำไปปลูกเป็นพืชพลังงานนำมาป้อนให้กับโรงงานของเค้าเองพืชเหล่านี้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล สำหรับการปลูกต้นไม้พลังงานสำหรับต้นไม้ที่ต้นพบก็คือต้นกระถินยักษ์ปลูกครั้งเดียวตัดได้ 12 ปี เป็นทางเลือกสำหรับเกษตรกรเพื่อเป็นพืชทดแทนไบโอดีเซลที่มีปัญหา ชาวบ้านจะมีรายได้จากการขายต้นไม้ นอกเหนือจากนี้ก็จะมีการจ้างงานเกิดขึ้นในพื้นที่ ท้องถิ่นก็จะได้รับเงินภาษีจากโครงการนี้ หลังการอภิปรายทราบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการแล้ว ฝากขอบคุณไปยังรัฐบาลที่สั่งการให้กระทรวงพลังงานตอบรับเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ พรรคเพื่อไทยยินดีจะผลักดันเรื่องนี้อย่างแน่นอน นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงไฟฟ้าชุมชนเป็นสิ่งที่งดงามเพราะเป็นรัฐวิสาหกิจชุมชนที่ประชาชนเป็นเจ้าของ จะสร้างรายได้ในชุมชนจากการปลูกพืชพลังงานและมีรายได้เงินปันผลจากโรงไฟฟ้าชุมชน สร้างเศรษฐกิจให้ชุมชนทั่วประเทศสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นโรงไฟฟ้าจากขยะเพื่อลดภาระด้านการกำจัดขยะของท้องถิ่นทั่วประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ ขอบคุณทุกคนที่ผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดความสำเร็จ |
|
|
วีดิทัศน์
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
