ขอเชิญผู้สนใจส่งประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า
สารานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนฯ
โครงการยกย่องเยาวชนต้นแบบเฉลิมพระเกียรติฯ
กรอบการดำเนินงานสปช.
(เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 57)
วันศุกร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายบุญเลิศ คชายุทธเดช และนายนิมิต สิทธิไตรย์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ร่วมกันแลงข่าวถึงกรณีที่มีข่าวการพาดพิงคนในรัฐบาลว่าอยู่เบื้องหลังการโหวตร่างรัฐธรรมนูญ ว่า หลังจากที่ตนได้แถลงข่าวประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ได้มีเพื่อนสปช. หลายคนมาขอร้องให้เปลี่ยนใจหันมาสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ แต่พวกตนได้ตอบไปแล้วว่าไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะก่อนที่จะแถลงประกาศจุดยืนไม่รับร่างรธน.นั้น ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบแล้ว โดยได้คำนึงถึงประเทศเป็นสำคัญ และมุ่งหวังว่าประชาชนจะไม่กลับมาทะเลาะ ขัดแย้งและเกิดวิกฤติความรุนแรงกันอีก ทั้งนี้ นายบุญเลิศ ได้กล่าวว่า ถ้าเป็นไปได้ หากสปช. จะลงมติเสียงส่วนใหญ่ให้ผ่านก็ขอให้ผ่านด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นและเป็นไปอย่างขาวสะอาด ปราศจากข้อครหานินทาว่าได้คะแนนอย่างไม่ชอบธรรม แต่ถ้าไม่ผ่านก็อยากจะให้สปช. ได้คะแนนท่วมท้นเช่นกัน หากผ่านความเห็นชอบจากสปช.ไปแบบสูสี แล้วถูกคว่ำในขั้นตอนการลงประชามติก็จะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง นั่นคือ เสียทั้งเงินค่าจัดพิมพ์ ค่าดำเนินการลงประชามติกว่า ๓,๐๐๐ ล้านบาท และอาจเกิดความแตกแยก และความวุ่นวายซึ่งยากต่อการแก้ไขของรัฐบาลและคสช.ได้
นายนิมิต ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่มีความในสื่อมวลชนว่าสปช. แบ่งเป็นสองฝ่ายมีการใช้คำว่า "ล็อบบี้ สปช." มีการกล่าวอ้างถึงบุคคลที่สาม พาดพิงถึงคนในรัฐบาล เพื่อชี้นำผลการลงมติ ข่าวดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความสับสนให้กับประชาชน และยังส่งผลกระทบต่อเกียรติและศักดิ์ศรีของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งทุกคนได้ร่วมกันสร้างมาและพิสูจน์ให้เห็นด้วยการทุ่มเทการทำงานจนได้ข้อสรุปมีผลงาน วาระการปฏิรูปส่งมอบให้กับรัฐบาลไปแล้ว