-- สภาปฏิรูปแห่งชาติสิ้นสุด ณ วันที่ 6 กันยายน 2558 --
 ปฏิทินกิจกรรม
« พฤศจิกายน 2567 »
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
      1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
ดูปฏิทินทั้งหมด
รายงานวาระปฏิรูปที่ผ่านความเห็นชอบของ สปช.
ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ
ระบบสารสนเทศบริหารงานข้อมูลเพื่อการปฏิรูป
แผนภาพกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ
ศูนย์รับฟังความคิดเห็น สภาปฏิรูปแห่งชาติ
สนง.เลขาธิการสภาผู้แทนฯ ปฏิบัติหน้าที่ สนง.เลขาธิการสภาปฏิรูปฯ
เว็บไซต์เพื่อการสื่อสารภายใน สปช.
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อลงมติ
e-Mail@parliament.go.th
ชื่อเข้าใช้ :
รหัสผ่าน :  
 
วีดิทัศน์สภาปฏิรูปแห่งชาติ


  • ขอเชิญผู้สนใจส่งประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า    download_icon

  • สารานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนฯ    download_icon

  • โครงการยกย่องเยาวชนต้นแบบเฉลิมพระเกียรติฯ    download_icon

  • กรอบการดำเนินงานสปช.    download_icon

 แสดงทั้งหมด...
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาปฏิรูปแห่งชาติ
กมธ.ปฏิรูปการเมือง แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 1 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2557

 วันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.๔๕ นาฬิกา  ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายประสาร มฤคพิทักษ์ โฆษกกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง ครั้งที่ ๓/๒๕๕๗ ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง และข้อเสนอแนะในการปฏิรูประบบพรรคการเมือง และการปฏิรูปการเรียนรู้ การปรองดอง และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยมีผลการพิจารณา ดังนี้

เรื่องที่หนึ่ง พิจารณาศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง ข้อเสนอแนะในการปฏิรูประบบพรรคการเมือง ในเบื้องต้นที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อเสนอแนะในการปฏิรูปพรรคการเมือง โดยเห็นสมควรบรรจุประเด็นการปฏิรูปไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ดังนี้
๑. พัฒนาสถาบันพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง โดยสมาชิกพรรคต้องมีส่วนร่วมและตรวจสอบได้

ความเห็นของที่ประชุม การส่งสมาชิกพรรคลงรับสมัครเลือกตั้งต้องได้รับความเห็นชอบของสมาชิกพรรคการเมืองในพื้นที่เลือกตั้งนั้นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนเข้ามาแทรกแซง

๒. พรรคการเมืองมีหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์แห่งชาติ

ประเด็นดังกล่าว ที่ประชุมยังต้องมีการพิจารณารายละเอียดแนวทางการปฏิรูปเพิ่มเติม

๓. การยุบพรรคกระทำได้เฉพาะกรณีหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคมีการกระทำผิดตามบทบัญญัติมาตรา ๒๓๗  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เนื่องจากเห็นว่า ในอดีตที่ผ่านมา การยุบพรรคการเมืองไม่สมารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ถือเป็นความรับผิดเฉพาะตัวของหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคคนนั้นเอง

๔. การสนับสนุนพรรคการเมืองโดยรัฐอย่างเหมาะสมและยุติธรรม

ที่ประชุมเห็นควรให้มีการสนับสนุนพรรคการเมืองทั้งในเรื่องทุน และการดำเนินงานอย่างอื่น ส่วนวิธีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเหมาะสมและยุติธรรมนั้น จะมีการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง

๕. องค์กรตรวจสอบจริยธรรมพรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

๖. นักการเมืองต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง

ประเด็นให้นักการเมืองต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง มีกรรมาธิการขอสงวนความเห็นว่านักการเมืองจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหรือไม่ก็ได้ แต่ต้ององค์กรควบคุมนักการเมือง

สำหรับประเด็นนักการเมืองท้องถิ่นต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองด้วยหรือไม่นั้น ที่ประชุมเห็นว่าต้องมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

เรื่องที่สอง พิจารณาศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง และข้อเสนอแนะในการปฏิรูปการเรียนรู้การปรองดอง และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอแนะการปฏิรูปในด้านดังกล่าว โดยเห็นสมควรบรรจุประเด็นการปฏิรูปไว้ในร่างรัฐธรรมนูญดังนี้

๑.บุคคลย่อมมิสิทธิเสมอกันในการศึกษาเรียนรู้ทางการเมืองตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง โดยกำหนดให้มีองค์กรรับผิดชอบและกระบวนการการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน

๒.รัฐต้องส่งเสริมให้มีกระบวนการและกลไกในการสร้างความปรองดองเพื่อเสริมสร้างความเป็นเอกภาพชองชาติ ทั้งในยามสถานการณ์ปกติ และกรณีเกิดความขัดแย้ง และมีพื้นที่สาธารณะให้กับประชาชน เพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งการปรองดอง และห้ามไม่ให้พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองสร้างความขัดแย้งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน

๓.บุคคลย่อมมีสิทธิ และหน้าที่ในการมีส่วนร่วมการใช้อำนาจรัฐและการตรวจสอบการใช้อำนาจ รวมทั้งการจัดสรรทรัพยากรสาธารณะและของรัฐ โดยส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสภาพลเมืองให้ทำหน้าที่ดังกล่าว โดยรัฐต้องจัดให้มีระบบและกลไกส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน

download download Download all images download
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร Call Center 1743 ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
โทร 0 2244 1000 e-Mail : webmaster@parliament.go.th
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
(เริ่มนับ 2 ต.ค. 57)