วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๒.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก โดยมีประเด็น ดังนี้

 

๑. สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ตั้งใจเต็มที่ที่จะใช้สติปัญญาทั้งหมด กรอง สังเคราะห์ และพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก ให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้  โดยจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ๗ วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๘ จากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และสภาปฏิรูปแห่งชาติ จะเริ่มพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ ๒๐ - ๒๖ เมษายน ๒๕๕๘ โดยในวันที่ ๒๓ เมษายน นั้น จะเริ่มพิจารณาในช่วงบ่าย เนื่องจากในช่วงเช้าจะเป็นการประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการทุกคณะ ศึกษารายละเอียดและจับประเด็นการปฏิรูปที่เกี่ยวข้องกับกรรมาธิการของตนเอง โดยเฉพาะหมวด ๔ ซึ่งเป็นหมวดที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุด และขอให้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติทุกคน ทำการบ้าน ศึกษาประเด็นต่างๆ ที่ปรากฏในร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมตัวในการอภิปราย  และหากมีประเด็นที่ต้องการปรับปรุง ขอให้ส่งต่อให้กับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ภายใน ๓๐ วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด สภาปฏิรูปแห่งชาติจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ได้ร่างรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับสังคมไทย และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

 

๒. ในส่วนของรายละเอียด ขั้นตอน และกรอบระยะเวลาในการอภิปรายนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะอยู่ในระหว่างการพิจารณา เพื่อกำหนดรายละเอียดต่างๆ เนื่องจากเนื้อหาในรัฐธรรมนูญในแต่ละหมวดมีน้ำหนักในการอภิปรายแตกต่างกัน จึงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน

 

๓. ประเด็นเกี่ยวกับการรับฟังความเห็นของประชาชน ทั้งในส่วนของคณะกรรมาธิการวิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และจากศูนย์รับฟังความเห็น สภาปฏิรูปแห่งชาติ นั้นได้มีการรวบรวมความเห็นทุกประเด็น และนำมาสังเคราะห์และประมวลผล แล้วนำส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการปฏิรูปทั้ง ๑๘ คณะ เพื่อนำไปจัดทำเป็นกรอบในการปฏิรูปเรียบร้อยแล้ว และจะนำมาอภิปรายในที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติในวันที่ ๒๐ - ๒๖ เมษายนนี้ ทั้งนี้ในการอภิปรายจะเปิดกว้างให้สมาชิกฯ สามารถอภิปรายได้อย่างเต็มที่ และมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น ไม่มีครอบงำ และไม่มีโพย

 

๔. วาระการปฏิรูปประเทศทั้ง ๓๖ ประเด็นนั้น คณะกรรมาธิการทุกคณะ ได้จัดทำกรอบการปฏิรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้นำส่งให้กับประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติแล้วตั้งแต่วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ และคณะทำงานก็ได้รวบรวมประเด็นและสังเคราะห์ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว โดยมีทั้งในส่วนที่พร้อมดำเนินการเลย ส่วนที่ต้องปรุงแต่งและเสริมประเด็นให้ครบถ้วน และส่วนที่ต้องมีการปรับใหม่ โดยทั้งหมดได้นำเข้าที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติเพื่อพิจารณาแล้ว และจากการประชุมวิปแม่น้ำ ๕ สาย ทั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เพิ่มช่องทางการในการประสานงานเพิ่มขึ้น โดยจะมีการประสานงานภายใน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้สัมฤทธิผล รวดเร็ว และเกิดความสำเร็จมากขึ้น