วันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๔.๑๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง
ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

และนายเรอโน เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำ
ประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)
พร้อมกล่าวถ้อยแถลงความร่วมมือฯ โดยมี นางพรพิศ เพชรเจริญ
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.โลวิต้า รามกุทธี รองผู้แทน UNDP
ร่วมลงนามในฐานะพยาน

ในการนี้ นางกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย
กล่าวแสดงความยินดี และนายภาคภูมิ มิ่งมิตร ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร กล่าวรายงาน โอกาสนี้ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถ้อยแถลงความร่วมมือฯ ว่า สำนักงานเลขาธิการ

สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้ความสำคัญกับเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มีขีด

สมรรถนะสูง รวมถึงมีพันธกิจในการเสริมสร้างกระบวนการนิติบัญญัติให้มี
คุณภาพและได้มาตรฐานสากลมีการเสริมสร้างบทบาทและความร่วมมือในเวที
รัฐสภาอาเซียนและรัฐสภาระหว่างประเทศ ส่งเสริมวัฒนธรรมทางการเมืองและ
การมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข โดยการลงนามในวันนี้ นับว่าเป็นโอกาสอันดี ที่ UNDP
ในฐานะหน่วยปฏิบัติการขององค์การสหประชาชาติจะเข้ามาร่วมแบ่งปัน
ประสบการณ์ และองค์ความรู้ในระดับสากล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถ
และการตระหนักรู้ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่ สมาชิกรัฐสภา บุคคล
ในวงงานรัฐสภา และข้าราชการรัฐสภาสามัญ รวมถึงการเข้ามาเป็น
ผู้อำนวยความสะดวกในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภากับหน่วยงาน
ด้านการพัฒนาอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โอกาสนี้ สำนักงานฯ ขอเป็นโซ่ข้อกลางที่จะเป็นผู้ประสานและเชื่อมโยงแนวทาง
ขององค์การสหประชาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนไปยัง ส.ส. และ ส.ว.
โดยการนำ ๑๗ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ไปบูรณาการร่วมกับการทำงาน
ด้านนิติบัญญัติผ่านกลไกของรัฐสภา คณะ กมธ. และหน่วยงานในสังกัด
รัฐสภา ในการแก้ไขปัญหาในมิติต่าง ๆ ของสังคม โดยหวังเป็นอย่างยิ่ง
ว่า ความร่วมมือกันของทั้ง ๒ ฝ่ายจะส่งเสริมให้รัฐสภาในฐานะตัวแทนของ
ปวงชนสามารถพัฒนากระบวนการทำงานที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ความรู้เทคนิค และวิธีปฏิบัติตามหลักสากล จาก UNDP มาช่วยสนับสนุน
การปฏิบัติงานของรัฐสภาให้ตอบสนองความต้องการของประชาชน และ
สามารถเชื่อมโยงการทำงานด้านการพัฒนาฯ ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน
ภาคประชาชน และองค์การระหว่างประเทศ ที่จะบูรณาการร่วมกันในทุกภาคส่วน
อันจะก่อให้เกิดพลังการขับเคลื่อนสังคมจนเกิดผลสัมฤทธิ์จากการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในทุกมิติ ทั้งนี้ ได้นำแนวคิดของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่นำหลักการ
"ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่" ซึ่งเป็นอุปนิสัยของคนไทยมาเป็นส่วนหนึ่งของการ
ทำให้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนประสบผลสำเร็จ อันเกิดจากการแบ่งปัน และ
ความร่วมมือด้วยมิตรไมตรีเช่นเดียวกับความร่วมมือระหว่างสำนักงานฯ กับ
UNDP ในวันนี้ เป็นก้าวแรก และก้าวสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการร่วม
สร้างอนาคตให้สังคมโลกเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป และส่งต่อเป้าหมายการพัฒนา
ที่ยั่งยืนออกไปสู่เวทีรัฐสภาระหว่างประเทศ ให้ประชาชนทั่วทุกมุมโลกได้รับ
ประโยชน์สูงสุด