นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครอง กลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .... จากนางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธานคณะ กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ และคณะ

ทั้งนี้ ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง สภาพปัญหาและแนวทางส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย ของคณะ กมธ. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 63 และได้ส่งรายงานพร้อมข้อสังเกตไปยังคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการแล้วนั้น คณะ กมธ. ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็น
ในการพัฒนากฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย จึงได้พิจารณาศึกษาและยกร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครอง
กลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .... ฉบับนี้ ซึ่งเป็นประเด็นสืบเนื่องจากผลการศึกษา ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในรายงานการศึกษา
ดังกล่าว รวมถึงรายงานสภาพปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองไร้สัญชาติ ที่ผู้แทนองค์กรสร้างสรรค์อนาคตเยาวชนยื่นต่อนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ โฆษกคณะ กมธ. โดยคณะ กมธ. มุ่งหวังให้มีกฎหมายหลักในการส่งเสริม
และคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทยให้สามารถดำรงชีวิตและมีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมและเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม โดยนำไปใช้ประกอบการพิจารณาควบคู่กับร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. …. ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การ
มหาชน) ซึ่งได้ยกร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำรายงาน
ศึกษาผลกระทบของกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ซึ่งจะได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือน มิ.ย. 64
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. การกำหนดให้มีการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ ในประเด็นที่สำคัญ อาทิ การกำหนดให้ประเทศไทยเป็นพหุชาติพันธุ์และพหุวัฒนธรรม และการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ จะต้องสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยผูกพัน รวมทั้งการกำหนดนโยบาย กฎ ระเบียบ มาตรการ โครงการ หรือวิธีปฏิบัติของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานเอกชน ในลักษณะที่เป็นการเหยียดหยาม สร้างความเกลียดชัง หรือเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติต่อกลุ่มชาติพันธุ์จะกระทำมิได้ ตลอดจนการกำหนดให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้รับการคุ้มครอง มีสิทธิดำรงชีวิตในสังคม สิทธิครอบครองและ
สิทธิในการจัดการ พื้นที่ชุมชนและชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน พื้นที่ทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ2. การกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์แห่งชาติ คณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์จังหวัด พร้อมทั้งกำหนดหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการดังกล่าว