|
|
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายขจิตร ชัยนิคม รองประธานคณะ กมธ. วิสามัญ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
. คนที่สอง รับยื่นหนังสือจาก นายศราวุธ วามะกัน ประธานเครือข่ายชมรมโรงเรียนขนาดเล็กแห่งประเทศไทย (ช.ล.ท) เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
. มาตรา 14 (9) ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 11 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
|
|
วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.45 น. ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายขจิตร ชัยนิคม รองประธานคณะ กมธ. วิสามัญ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
. คนที่สอง รับยื่นหนังสือจาก นายศราวุธ วามะกัน ประธานเครือข่ายชมรมโรงเรียนขนาดเล็กแห่งประเทศไทย (ช.ล.ท) เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
. มาตรา 14 (9) ด้วยร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
. มาตรา 14 (9) ระบุว่าในกรณีที่ไม่สามารถจัดบุคลากรพื้นฐานสำหรับสถานศึกษาของรัฐใด จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดการศึกษาให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตราและเป้าหมายตามมาตรา 8 ได้อย่างมีคุณภาพ หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใดที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดจะรวมสถานศึกษาของรัฐเข้าด้วยกันก็ได้ โดยรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจอำนวยความสะดวกในการเดินทางและให้ความช่วยเหลือด้านอื่นแก่ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องได้ตามความจำเป็นตามระเบียบที่กระทรวงศึกษากำหนด ซึ่งกำลังเข้าสู่การพิจารณาในชั้น กมธ. รวมทั้งการไม่จัดสรรอัตรากำลังครูและผู้บริหารสถานศึกษาที่เกษียณอายุราชการหรือลาออกจากราชการให้กับโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนต่ำกว่า 120 คน ให้เป็นไปตามหนังสือของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เรื่องเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของนักเรียน ครู และผู้บริหารโรงเรียน โดยมีข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ทางเครือข่าย ช.ล.ท. ทั้ง 4 ภูมิภาค ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญ รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หากมีการยุบ การควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก หรือการเรียนรวมของโรงเรียนคุณภาพที่เป็นงานนโยบายยากแก่การปฏิบัติ และอาจส่งผลกระทบต่อรากฐานของชุมชน บ้าน วัด และโรงเรียนที่มีความเข้มแข็งและพร้อมที่จะขับเคลื่อนพัฒนา ทางเครือข่าย ช.ล.ท. จึงขอให้คณะ กมธ. ช่วยพิจารณากรณีดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดย นายขจิตร ชัยนิคม กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทย และเด็กนักเรียนไทยเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย ทั้งนี้ตนมีความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่า รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นระยะเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังเป็นการทำลายวิถีชีวิตของคนชนบท เพราะการที่นักเรียนได้ย้ายมาเรียนในโรงเรียนขนาดใหญ่ ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่าเด็กนักเรียนเหล่านั้นจะมีความสุข เนื่องจากอาจต้องประสบปัญหาความลำบากในการเดินทางไปโรงเรียนก็เป็นได้ |
|
|
วีดิทัศน์
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
