|
|
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน คนที่สอง รับยื่นหนังสือจาก นายพงศ์ศักดิ์ ศิริรักวงศา ตัวแทนกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เรื่องขอให้ตรวจสอบการดำเนินกิจการของมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 29 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
|
วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 12.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน คนที่สอง รับยื่นหนังสือจาก นายพงศ์ศักดิ์ ศิริรักวงศา ตัวแทนกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เรื่องขอให้ตรวจสอบการดำเนินกิจการของมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย เนื่องด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบภายในโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนในช่วงปี 2562 จนนำมาซึ่งการสั่งควบคุมโรงเรียนโดยเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เนื่องจากการบริหารจัดการของคณะกรรมการมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย โดยขาดธรรมาภิบาล ลุแก่อำนาจ และเป็นผลสืบเนื่องมาจากการจัดทำตราสารจัดตั้งโรงเรียนโดยขัดต่อเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 และต่อมาผู้มีส่วนได้เสียของมูลนิธิฯ ตรวจสอบพบว่ามูลนิธิฯ มีการดำเนินการขัดต่อกฎหมายหลายประการ จึงได้ฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อให้มีการถอดถอนคณะกรรมการมูลนิธิหลายคดี จนกระทั่งศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามคณะกรรมการมูลนิธิดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของมูลนิธิ เว้นแต่การดำเนินการทั่วไปตามที่จำเป็น และตามที่กฎหมายกำหนด แต่ทางมูลนิธิก็ยังคงไม่สนใจคำสั่งของศาลและได้ดำเนินการอันอาจจะถือเป็นการขัดคำสั่งของศาลหลายประการ อาทิ การดำเนินการขัดต่อพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2565 การดำเนินการขัดต่อกฎหมายที่ดิน การที่คณะกรรมการมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยไม่บันทึกหรือดำเนินการให้มีการบันทึกทรัพย์สินดังกล่าวย่อมเป็นการลวงให้มูลนิธิขาดประโยชน์อันควรได้รับเนื่องจากขาดสินทรัพย์เป็นจำนวนมาก จึงย่อมถือได้ว่าเป็นการดำเนินกิจการที่ขัดต่อ การดำเนินกิจการและการทะเบียนมูลนิธิ พ.ศ. 2545 ด้วย รวมทั้งนัยแห่งมาตรา 40 ประกอบกับมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2495 อีกทั้งยังเป็นพฤติกรรมอันส่อไปในทางทุจริตอีกด้วย จึงขอให้คณะ กมธ. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการทุจริตและการดำเนินการขัดต่อกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาอื่น ๆ อีกหรือไม่ พร้อมทั้งพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควรต่อไป ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า คณะ กมธ. จะเรียกหน่วยงานที่กำกับดูแลมูลนิธิมารับฟังปัญหา เนื่องจากมูลนิธิเป็นหน่วยงานเอกชน ซึ่ง กมธ. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ สิ่งที่ กมธ. ทำได้คือจะเชิญปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นนายทะเบียนของมูลนิธิ มารับฟังข้อร้องเรียนเหล่านี้ และติดตามว่านายทะเบียนจะมีการดำเนินการหรือตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร หากพบว่ามีเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชันหรือการยักยอกผลประโยชน์ก็จะขยายผลไปถึงหน่วยงานที่จะสามารถเข้ามาดำเนินการได้ต่อไป |
|
|
วีดิทัศน์
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
