|
|
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายสุเทพ อู่อ้น ประธานคณะ กมธ.การแรงงาน และคณะ รับยื่นหนังสือจาก นายกิตติคุณ จึงตระกูล อดีตผู้ช่วยนักบิน บริษัท วิสดอม แอร์เวย์ จำกัด เรื่องขอความเป็นธรรม กรณีบริษัท วิสดอม แอร์เวย์ จำกัด ค้างจ่ายและเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและชดเชย พร้อมดอกเบี้ย ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 23 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
|
วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายสุเทพ อู่อ้น ประธานคณะ กมธ.การแรงงาน และคณะ รับยื่นหนังสือจาก นายกิตติคุณ จึงตระกูล อดีตผู้ช่วยนักบิน บริษัท วิสดอม แอร์เวย์ จำกัด เรื่องขอความเป็นธรรม กรณีบริษัท วิสดอม แอร์เวย์ จำกัด ค้างจ่ายและเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและชดเชย พร้อมดอกเบี้ย สืบเนื่องจากตนเคยทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท วิสดอม แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสายการบินวิสดอมแอรเวย์ โดยเข้าทำงานเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 61 ตำแหน่งนักบิน ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน อัตราสุดท้ายเดือนละ 55,000 บาท โดยบริษัทฯ และนายจ้างกำหนดให้ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานใหญ่จดทะเบียน นายจ้างกำหนดให้ทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน คือ วันจันทร์ถึงวันศุกร์ โดยวันเสาร์และวันอาทิตย์เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ เวลาทำงานปกติคือเวลา 08.00 -17.00 น. พักระหว่างการทำงานวันละ 1 ชั่วโมง บันทึกเวลาการทำงานโดยการสแกนลายนิ้วมือ กำหนดการจ่ายค่าจ้างคือวันสุดท้ายของเดือน ลักษณะการทำงาน คือ ทำหน้าที่เป็นนักบินที่สอง เมื่อมีการตารางการบินก็จะปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว แต่หากวันใดไม่มีตารางการบิน บริษัทฯ จะกำหนดให้ทำหน้าที่อื่นแทน ซึ่งตนได้ทำงานตามคำสั่งของบริษัทฯ ทุกครั้ง แต่ไม่เคยได้รับค่าจ้าง เมื่อทวงถามก็อ้างว่าจะต้องศึกษาและฝึกอบรมพนักงานให้เสร็จสิ้นก่อน ตนทำงานกับบริษัทฯ เรื่อยมาถึงวันที่ 12 พ.ค. 62 จึงได้ยื่นหนังสือแจ้งลาออก มีผลวันที่ 31 พ.ค. 62 และเมื่อออกจากงานแล้วบริษัทฯ ไม่จ่ายค่าจ้างเพื่อตอบแทนการทำงานให้แต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนทำงานกับบริษัทฯ จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 62 หลังจากนั้นได้รับแจ้งว่าบริษัทฯ จะปิดดำเนินการชั่วคราวเพื่อรอโครงการใหม่ จึงขอให้ตนหยุดการปฏิบัติงานไปก่อนและจะเรียกกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งเมื่อโครงการแล้วเสร็จ ซึ่งหลังจากนั้นบริษัทฯ ก็ไม่เรียกให้กลับเข้าไปทำงาน และเมื่อเข้าไปดูในเว็บไซต์ของบริษัทฯ กลับพบว่าบริษัทฯ ได้ปิดดำเนินกิจการตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 62 จึงขอให้คณะกมธ. ช่วยเหลือให้ได้เงินคืนตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ดังนี้ 1. ค่าจ้างสำหรับการทำงานวันที่ 2 มิ.ย. 61 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 62 รวมเป็นเงิน 878,198.67 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปี นับตั้งแต่วันผิดนัดชำระครั้งสุดท้ายคือวันที่ 30 ก.ย. 62 เป็นต้นไป 2. ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า วันที่ 1 - 31 ต.ค. 62 เป็นเงิน 55,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีนับแต่วันผิดนัดชำระจนกว่าชำระเสร็จ 3. ค่าชดเชยสำหรับการทำงานวันที่ 2 มิ.ย. 61 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 62 กรณีทำงานติดต่อกันครบหนึ่งปีแต่ไม่ครบสามปี เป็นเงิน 165,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปี นับแต่วันผิดนัดชำระจนกว่าชำระเสร็จ จึงขอความอนุเคราะห์จากคณะ กมธ. ให้ความเป็นธรรมและเข้ามาสอบสวนการกระทำ รวมถึงหาแนวทางเพื่อยุติข้อพิพาทอย่างเป็นธรรมและให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่ตรวจสอบ ข้อบังคับของบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายคุ้มครองแรงงานหรือไม่ และตามวิธีการปฏิบัติทั่วไปที่จะกำหนดระยะเวลาสอบสวน รวมถึงแนวทางการสอบสวน และขอให้ช่วยเจรจากับบริษัทให้จ่ายค่าชดเชยจากการเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมแก่ตนตามกฎหมายด้วย ด้าน นายสุเทพ อู่อ้น กล่าวว่า ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะ กมธ. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือแก่ผู้ร้องต่อไป พร้อมทั้งขอให้สื่อมวลชนช่วยกันเป็นกระบอกเสียงและช่วยติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนด้วย |
|
|
วีดิทัศน์
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
