วันพุธที่ ๑๘
พฤศจิกายน เวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ พลตำรวจตรี ยงยุทธ สาระสมบัติ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
แถลงข่าวแนะนำคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจำนวน ๒๓ คน โดยมีพันตำรวจตรี ยงยุทธ
สาระสมบัติ เป็นประธานกรรมาธิการ พลเอกอภิชาต เพ็ญกิตติ เป็นรองประธานกรรมาธิการ
คนที่หนึ่ง และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ เป็นรองประธานกรรมาธิการ คนที่สอง พลเอก ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ์ เป็นเลขานุการกรรมาธิการ นายอนุสิษฐ คุณากร และนายประสิทธิผล ยูวะเวส
ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรฯ เป็นผู้ช่วยเลขานุการกรรมาธิการ
พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล และนางถวิลวดี บุรีกุล เป็นโฆษกกรรมาธิการ พลเอกวัฒนา สรรพานิช และพลเอกธวัช จารุกลัส เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ซึ่งในการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการฯ
ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการ จำนวน ๓ คณะ คือ ๑. คณะอนุกรรมาธิการโครงสร้างองค์กรภาครัฐ
๒. คณะอนุกรรมาธิการประสิทธิภาพ ธรรมาภิบาล และการพัฒนาบุคลากร ๓. คณะอนุกรรมาธิการงบประมาณ
ซึ่ง คณะอนุกรรมาธิการโครงสร้างองค์กรภาครัฐ มีกรอบในการจัดทำระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น โดยจะนำกรอบดังกล่าวที่คณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินชุดเก่าได้ทำไว้มาจัดทำต่อโดยมีการทบทวนว่าอะไรเป็นภารกิจหลัก และภารกิจลอง หรือภารกิจที่ซ้ำซ้อนกัน และได้มีการกำหนดเวลาว่าภายใน ๑๘ เดือนนี้ ต้องขับเคลื่อนโครงสร้างองค์กรภาครัฐ ให้มีผลเป็นรูปธรรมมากที่สุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คณะอนุกรรมาธิการประสิทธิภาพ ธรรมาภิบาล และการพัฒนาบุคลากร มีกรอบในการทำงานเกี่ยวกับความคาดหวังของประชาชน ที่มีต่อระบบราชการโดยนำแนวคิดเดิมมาสานต่อเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด ซึ่งในการทำงานจะต้องสอดคล้องกับอนุกรรมาธิการทั้ง ๓ ด้าน เพื่อทำให้ประชาชนได้รับการบริการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม รวมทั้งการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนด้วย และอนุกรรมาธิการงบประมาณ และการคลังท้องถิ่น มีเป้าหมายในการทำงาน คือการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ปี ๒๕๐๒ และจะมีการยกร่างใหม่โดยจะมีการวิเคราะห์งบประมาณประจำรัฐสภาด้วย เพื่อนำมาใช้ในปี ๒๕๖๒ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาตินั้น จะดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน โดยจะดำเนินการบูรณาการร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการทั้งสามเพื่อมุ่งผลสัมฤธิ์ นำไปสู่ยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้ จุดเน้นของกรรมาธิการ คือ การขับเคลื่อนการปฏิรูปในประเด็นดังต่อไปนี้
๑. สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
เช่นการยกระดับการบริการของหน่วยงานภาครัฐ
มีการปรับปรุงบทบาทภารกิจและโครงสร้างของหน่วยงานภาครัฐ ให้มีขนาดที่เหมาะสมและคุ้มค่ารองรับสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
๒.
ขอความร่วมมือกับข้าราชการในการปฏิรูปในครั้งนี้ สำหรับกรอบเวลาการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการฯ
โดยห้วง ๑ เดือนแรก เป็นการกำหนดหัวข้อและประเด็นการปฏิรูปเพื่อเสนอแผนการปฏิรูป
ในห้วงเวลา ๑ เดือนต่อไปเป็นการสังเคราะห์ในประเด็นการปฏิรูป และในห้วง ๑๘
เดือนต่อไป จะเป็นการดำเนินการปฏิรูปตามแผนที่ได้กำหนดไว้
การดำเนินการจัดทำกรอบแนวทางการดำเนินงานและแผนการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ของคณะกรรมาธิการฯ
ได้ยึดถือแนวทางการปฏิรูปที่สภาปฏิรูปแห่งชาติได้จัดทำไว้ และยุทธศาสตร์ชาติเป็นหลักในการทำงานเพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมีการบูรณาการในทุกภาคส่วนและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
|