วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องรับรอง ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๑  ร้อยเอก ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ให้การรับรองนายกลิน ที. เดวิส เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแนะนำตัวและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘

     ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวต้อนรับ และกล่าวแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ และให้เกียรติมาเยือนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พร้อมทั้งกล่าวถึงการทำงานของเอกอัครราชทูตฯ ในระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งในประเทศไทยเป็นเวลา ๑ ปีครึ่ง ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ก็จะมีความรู้ความเข้าใจสังคมไทยและคนไทยเป็นอย่างดี เนื่องจากได้จัดกิจกรรมและเดินทางไปประกอบกิจกรรมในทุกภูมิภาคของประเทศไทยบ่อยครั้ง อีกทั้งยังใช้ช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อนในต่างจังหวัดอยู่เสมอ โดยเชื่อมั่นว่าด้วยความรู้ ความสามารถของเอกอัครราชทูต จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา รวมทั้งกล่าวขอบคุณสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่ได้จัดโครงการรำลึกถึงพระปรีชาสามารถทางด้านดนตรีแจ๊สในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อนำเสนอช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความสนพระทัยของพระองค์ต่อดนตรีแจ๊ส ทั้งนี้ในโอกาสที่นายโดนัล ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา ในนามของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ขอแสดงความยินดีต่อเอกอัครราชทูตฯ และเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ สหรัฐอเมริกาจะมีบทบาทที่โดดเด่นในเวทีระหว่างประเทศในทุกด้าน ซึ่งประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยินดีให้ความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศและสหรัฐอเมริกา รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรอบความร่วมมืออื่น ๆ ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพื่อผลประโยชน์ และประชาชนของทั้งสองประเทศต่อไป นอกจากนี้ได้กล่าวถึงการดำเนินงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่ได้สานต่องานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยก่อนหน้าที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ จะเข้ามาทำหน้าที่ รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิรูปประเทศล่วงหน้าไปแล้ว โดยเร่งผลักดันกฎหมายเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการปฏิรูปจำนวน ๑๘๓ ฉบับ และกำลังเร่งผลักดันกฎหมายอีก ๑๐๔ ฉบับ อีกทั้งการปฏิรูปที่รัฐบาลต้องเตรียมการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมแล้วจะต้องจัดทำกฎหมายจำนวน ๕๗ ฉบับ และไม่ต้องอาศัยกฎหมายอีก ๓๐ เรื่อง ตลอดจนต้องออกกฎหมายตามนโยบายแผนการปฏิรูปกฎหมายของรัฐบาลและตามความจำเป็นของหน่วยงานต่าง ๆ อีก ๑๐๐ ฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการในการปฏิรูปประเทศมีถึง ๓๘ เรื่อง ซึ่งส่วนมากสอดคล้องกับเรื่องที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้เสนอต่อรัฐบาลแล้ว

     เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวขอบคุณประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่ได้ให้การต้อนรับ ซึ่งการได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ นับเป็นโอกาสอันดีที่สำคัญที่จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้บทบาทการทำงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ในช่วงที่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง พร้อมทั้งได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก และยกย่องพระองค์เป็นบิดาแห่งความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา สมัยใหม่ และตลอดรัชสมัยที่ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนาให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำหรับการจัดโครงการรำลึกถึงพระปรีชาสามารถทางด้านดนตรีแจ๊สในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้จัดขึ้นตลอดปี ๒๕๖๐ นอกจากนี้ได้ทราบว่าขณะนี้มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้ขออนุญาตประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพื่อเข้าชมการประชุมด้วย