คณะผู้แทนรัฐสภาไทย เข้าร่วมการประชุมภาครัฐสภาว่าด้วยการสานเสวนาระหว่างศาสนา (Parliamentary Conference on Interfaith Dialogue) ณ เมืองมาร์ราเกช ราชอาณาจักรโมร็อกโก เป็นวันแรก

เมื่อวันอังคารที่ 13 มิ.ย.66 ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย พร้อมด้วยผู้แทนรัฐสภาไทยประกอบด้วย พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง สมาชิกวุฒิสภา และนางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา เข้าร่วมการประชุมภาครัฐสภาว่าด้วยการสานเสวนาระหว่างศาสนา (Parliamentary Conference on Interfaith Dialogue) ระหว่างวันที่ 13 – 15 มิ.ย.66 ณ ศูนย์การประชุม Palais des Congrès เมืองมาร์ราเกช ราชอาณาจักรโมร็อกโก โดยมีนางสาวเพ็ญแข อินทรสุวรรณ อุปทูตฯ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต เป็นที่ปรึกษาคณะผู้แทนรัฐสภาไทย โดยมีสรุปภารกิจของคณะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมวันแรก ดังนี้

เวลา 11.00 - 12.30 น. คณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมีทั้งสมาชิกรัฐสภา ผู้นำทางศาสนา ผู้แทนจากองค์กรที่อิงศาสนา (FBOs) นักวิชาการและอื่น ๆ พิธีเปิดเริ่มโดย นาย Rachid Talibi El Alami ประธานสภาผู้แทนราษฎรอัญเชิญพระราชสาส์นของสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 (Mohammed VI) ความว่า อธิปไตยเป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างศาสนาต่าง ๆ การอยู่ร่วมกันอย่างมีความหมาย มีความเข้าใจและสร้างความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านมนุษยธรรม อย่างไรก็ดี เป้าหมายดังกล่าวจะไม่สามารถสำเร็จได้หากไม่ลงมือทำ จากนั้น นาย Duarte Pacheco ประธานสหภาพรัฐสภา กล่าวว่าโมร็อกโกมีประวัติศาสตร์ของการอยู่ร่วมกันระหว่างศาสนาและความเชื่อต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน ซึ่งทั้งศาสนาและความเชื่อเป็นสิ่งสำคัญต่อประชาชน ศาสนามีอิทธิพลต่อศักดิ์ศรี มีคุณค่าและส่งผลต่อการตัดสินใจ มีผลกระทบต่อวิถีของการมีส่วนร่วมในสังคมของประชาชน สมาชิกรัฐสภามีเป้าหมายร่วมกันในการทำหน้าที่ต่อชุมชนของตนและส่งเสริมให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดี

        นาย Martin Chungong เลขาธิการสหภาพรัฐสภา กล่าวว่าเมืองมาร์ราเกช เป็นสถานที่พิเศษอันเนื่องจากประวัติศาสตร์ของการยอมรับความแตกต่างและการอยู่ร่วมกันระหว่างศาสนาต่าง ๆ และอ้างถึงปฏิญญามาร์ราเกช ปี 2559 ว่าด้วยสิทธิของชนกลุ่มน้อยทางศาสนาในประเทศมุสลิม การประชุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแก้ไขปัญหาและวิธีปฏิบัติที่ดีให้กับสังคม เกิดความเป็นประชาธิปไตยและยอมรับความแตกต่างกันมากขึ้น ในโลกที่ประชากรมีเสียงข้างมากเด็ดขาดจะระบุตัวเองว่าเป็นศาสนาได้นั้นจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อการสร้างสังคมที่สันติสุขและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

    นาง Agatha Chikelue ประธานคณะกรรมาธิการประสานงานสตรีสากล กล่าวถึงหัวข้อหลักของการประชุมว่า การทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตของพวกเราแสดงถึงการยกระดับความสำคัญให้เกิดความร่วมมือระหว่างสมาชิกรัฐสภาและผู้นำทางศาสนาทั่วโลกมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการพูดคุยและแลกเปลี่ยน รวมทั้งแสดงให้เห็นความจริงว่าแม้ว่าเราจะมีความแตกต่างแต่ความเหมือนกันหรือความเป็นธรรมดาสามัญนั้นผนึกเราให้สามัคคีกัน โลกกำลังผ่านช่วงเวลาวิกฤติอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางอาวุธและความตึงเครียด แอฟริกาแบกรับภาระอันหนักอึ้งที่สุดในประเด็นความขัดแย้งและความไม่มั่นคงในสังคมซึ่งทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างช้า ๆ

เครดิต : ภาพและข่าว โดย กลุ่มงานสหภาพรัฐสภา สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร