วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ พร้อมด้วยนายปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลรับยื่นหนังสือจาก นายจิรภัทร ตรงจิตต์รักษา (ชมพิ้งค์) อดีตนิสิตข้ามเพศ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร ผลักดันให้มหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศไทย 38 แห่ง และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ประชาสัมพันธ์เรื่อง การแต่งกายตามเพศสภาพในการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งเป็นปีแรก และเป็นประวัติศาสตร์สีรุ้งหน้าใหม่ของประเทศไทย แต่ด้วยเป็นการอนุโลมเป็นปีแรก ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏบางแห่งจึงยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ อีกทั้งการอนุโลมนี้ต้องให้นักศึกษาแสดงความประสงค์ในการขอแต่งกายตามเพศสภาพตามกำหนดเวลา หากแจ้งความประสงค์ไม่ทันจะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งสิทธิในร่างกาย เป็นหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เช่น โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ได้อนุญาตให้นักเรียนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ได้ใช้สิทธิในเรื่องการแต่งกายตามเพศสภาพ ได้อย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการเสริมพลังทางบวกให้กับเขาเหล่านั้น ได้นำพลังทางบวกมาขับเน้นศักยภาพในทางบวกจึงขอให้บุคลากรทางการการศึกษาในแต่ละสถาบัน ได้ทำข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดการแต่งกายที่เหมาะสมให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ กล่าวภายหลังการรับยื่นหนังสือว่า เพศคือเจตจำนง เป็นสิทธิมนุษยชนที่กำหนดเอง และกฎหมายต้องเปลี่ยนแปลงการแต่งกายตามเพศสภาพเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ถูกพูดถึงมาตลอด เนื่องจาก ระบบกฎหมายไทยเป็นสองเพศจึงนำสู่กฏระเบียบสองเพศที่มีเพียงชายและหญิง ซึ่งด้านวิชาการและกฎหมายต่างประเทศนั้น ได้มีการบัญญัติ อัตลักษณ์ทางเพศ เพศสภาพ เพศวิถี ไว้ในกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเรื่องเพศเป็นประเด็นที่สำคัญประเด็นหนึ่ง ที่พรรคก้าวไกลต้องดำเนินเปลี่ยนโครงสร้างเพศสู่ความหลากหลาย ซึ่งในขณะนี้พรรคก้าวไกลได้ดำเนินการยกร่างกฎหมาย การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองผู้มีความหลากหลายทางเพศ เสร็จเรียบร้อยแล้วและพร้อมยื่นสู่สภาแล้ว