 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
ศ.โกวิทย์ พวงงาม ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช
. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ซึ่งผ่านกระบวนการแก้ไขในวาระที่ 2 รายมาตราไปแล้ว ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 26 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564 |
|
|
|
| วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 12.20 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา ศ.โกวิทย์ พวงงาม ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช . (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ซึ่งผ่านกระบวนการแก้ไขในวาระที่ 2 รายมาตราไปแล้วเมื่อวันพุธที่ 25 ส.ค.64 โดยในความคิดเห็นส่วนตัวคาดว่า อาจเป็นการส่งสัญญาณในการแก้ไขที่ถือว่าสมประโยชน์ร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองใหญ่และสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน ทำให้ในวาระ 2 ขั้นแปรญัตติรายมาตราสามารถผ่านไปได้ ทั้งนี้ ระบบการเลือกตั้งบัตรสองใบ ประกอบด้วย บัตรเลือกตั้งสำหรับ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 100 คน โดยให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งมารวมกันทั้งประเทศแล้วคำนวณเพื่อแบ่งจำนวนผู้ที่จะได้รับเลือกของแต่ละพรรคการเมือง เป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับจำนวนคะแนนรวมข้างต้นหรือเรียกว่า วิธีการคำนวณแบบคู่ขนานหรือการใช้สัดส่วนร้อยละ จึงทำให้เห็นแนวโน้มว่าพรรคการเมืองใหญ่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งในมาตรา 83 และมาตราที่เกี่ยวเนื่องในมาตรา 86 โดยให้การเลือกตั้งมีบัตรสองใบและให้เพิ่ม ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 400 คน พร้อมกับลดจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจาก 150 คน เหลือเพียง 100 คน อีกทั้งวิธีการคำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้นทำให้พรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กเสียเปรียบและหมดโอกาสได้ ส่งผลให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้รับประโยชน์จากระบบนี้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า การเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งเช่นนี้ จะทำให้การเมืองไทยกลับไปสู่การที่พรรคการเมืองใหญ่เพียงพรรคเดียวหรือสองพรรคเท่านั้นที่จะมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้การบริหารจัดการขาดการถ่วงดุล ขาดความโปร่งใส และอาจมีวาระซ่อนเร้นในผลประโยชน์บางประการหรือที่เรียกว่าเผด็จการรัฐสภา และท้ายที่สุดเมื่อการเมืองเป็นไปในลักษณะนี้จะทำให้ขาดการถ่วงดุลจากพรรคการเมืองที่หลากหลายซึ่งอาจนำไปสู่การกินรวบประเทศและเกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นอีกครั้งหนึ่งได้ |
 |
 |
 |
 |
|