|  
													
													
													
													 
 
													
											 | 
				
				 
					| 
											 | 
					 
													
																			
															
									 ห้องข่าว >>  ภาพข่าว >>   ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  									 |  
																																	
										นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โฆษกคณะ กมธ. การทหาร รับยื่นหนังสือจากนายอิศรพงค์ ณ เชียงใหม่ ประธานกลุ่ม พี่ น้อง เพื่อน นักรบไทยทุกหมู่เหล่า และคณะ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์เงินผดุงเกียรติให้กับทหารผ่านศึกนอกราชการบัตรชั้นที่ สอง สาม สี่  
																															๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 27 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 
																				
																				
										
										 
										
										
										
										
										
									 | 
								 
								
																												
								 
								
							 
							
							 
	
  
     
    |    วันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โฆษกคณะ กมธ. การทหาร รับยื่นหนังสือจากนายอิศรพงค์ ณ เชียงใหม่ ประธานกลุ่ม พี่ น้อง เพื่อน นักรบไทยทุกหมู่เหล่า และคณะ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์เงินผดุงเกียรติให้กับทหารผ่านศึกนอกราชการบัตรชั้นที่ สอง สาม สี่ เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีทหารผ่านศึกนอกราชการอยู่จำนวน 607,083 คน ซึ่งได้พ้นหน้าที่จากการรับใช้ชาติออกมาแล้ว และในปัจจุบันได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล คือ เงินค่าครองชีพระยะสั้น (เงินค่ารถ) จำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อปี เงินค่ารักษาพยาบาล 3,500 บาท ต่อปีต่อหนึ่งครอบครัว ซึ่งนับว่าน้อยมากกับคุณประโยชน์และความเสียสละที่ได้เคยสร้างไว้กับประเทศชาติ แตกต่างจากทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่หนึ่ง ทหารผ่านศึกนอกประจำการที่พิการจากการสู้รบ ซึ่งไม่ได้นำมานับรวมกับจำนวนที่กล่าวไว้ในเบื้องตัน ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่หนึ่งจะได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี ผิดกับบัตรชั้นสอง สาม สี่ ที่มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ไม่ได้รับการดูแลจากส่วนที่รับผิดซอบเท่าที่ควร มาเป็นเวลายาวนาน เหมือนถูกแยกออกมาเป็นอีกชั้นหนึ่งของสังคม ทั้ง ๆ ที่ร่วมรบมาด้วยกัน สนามรบเดียวกันเพียงแต่ไม่พิการเท่านั้นเอง แต่กลับมีดวามเป็นอยู่แตกต่างจากบัตรชั้นที่หนึ่งอย่างมาก ปัญหาที่ทหารผ่านศึกนอกราชการบัตรชั้น สอง สาม สี่ พบเป็นประจำคือ การเบิกเงินค่ารถ 1,000 บาทต่อคนต่อปีนั้น การเบิกแต่ละครั้งต้องเดินทางออกไปเบิกนอกพื้นที่ภูมิลำเนาของตัวเอง จะเบิกในเขตภูมิลำเนาของตัวเองไม่ได้ บางครั้ง เบิกได้ 300 บาทบ้าง 500 บาทบ้าง บางคนตัดปัญหาไม่เบิกเลยหลายปี ก็มีเป็นจำนวนมาก มีบางส่วนเท่านั้นที่จะเบิกได้ครบตามจำนวนในแต่ละปี เงินค่ารักษาพยาบาล 3,500 บาท ต่อหนึ่งครอบครัวทหารผ่านศึกต่อปี ในกรณีภรยา ลูก หรือตัวทหารผ่านศึกเอง ป่วยอยู่ไกลจากโรงบาลทหารผ่านศึกที่มีอยู่เพียงในกรุงเทพฯ ที่เดียวและต้องออกเงินค่ารักษาพยาบาลไปก่อนแล้วจึงนำใบเสร็จมาเบิกกับสำนักงานทหารผ่านศึกคืนได้ 3,500 บาทต่อปี ซึ่งก็มีปัญหามากมาย เช่น ภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส บุตรที่เกิดจากภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็ไม่สามารถจะเบิกได้ ทั้งที่รัฐบาลได้จัดเป็นงบประมาณประจำปีในส่วนนี้ไว้แล้วก็ตาม งบประมาณที่รัฐบาลจัดให้ในส่วนนี้จึงเป็นงบประมาณที่แก้ปัญหาได้ตรงตามความเป็นจริงเท่าที่ควร ทำให้ทหารผ่านศึกนอกราชการเหล่านี้มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก เนื่องจากทหารผ่านศึกเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความรู้น้อย ประกอบกับมีอายุมากขึ้น หลังจากพ้นหน้าที่มาแล้ว จึงไม่มีอาชีพที่ยั่งยืน บางคนรับใช้ชาติมานับสิบ ๆ ปี การที่จะออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยมือเปล่า ๆ นั้นเป็นเรื่องยากมาก จึงพบเห็นได้เป็นประจำว่าทหารผ่านศึกนอนตายได้สะพานลอยบ้าง เดินเหม่อลอยเก็บขยะขายบ้าง บ้างครั้งเจ็บป่วย เงินจะซื้อยากินไม่มี พี่น้องลูกเมีย ไม่ต้องการ กลายเป็นคนเร่ร่อนไร้จุดหมายของชีวิต บางครั้งตายยังไม่มีเงินทำศพ เพื่อนๆต้องช่วยกันเรียไรช่วยกันไป แม้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจะมีค่าทำศพให้คนละ 15,000 บาท ต่อคนเมื่อตาย แต่ส่วนมากจะไม่ได้เบิกเพราะลูกเมียก็ไม่รู้ถึงสีทธิเหล่านั้น ทำให้ทหารผ่านศึกเหล่านี้มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบากมาเป็นเวลานาน ไม่สมกับคำที่ว่าทหารผ่านศึก เป็นผู้มีเกียรติ เพราะเป็นผู้ที่เสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองโดยแท้ ปัจจุบันสังคมที่เปลี่ยนไป ตลอดจนค่าครองชีพได้ถีบตัวเองสูงขึ้น ทำให้ความเป็นอยู่ยิ่งยากลำบากมากขึ้นไปอีก จากเหตุผล ที่ได้กล่าวมาข้างต้น นั้นจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ ขอค่าครองชีพระยะสั้นเงิน (เงินค่ารถ) คนละ 1,000 บาทต่อคนต่อปี และเงินด่ารักษาพยาบาลปีละ 3,500 บาทต่อครอบครัว นำมารวมกันจะได้เงินจำนวนหนึ่ง ยังขาดอยู่เท่าไรจึงขอรับการสนับสนุนเงินงบประมาณจากรัฐบาล เสนอให้ตัดยอดทหารผ่านศึกที่มีบำนาญ และทหารผ่านศึกนอกราชการที่พิการภายหลังที่พ้นหน้าที่มาแล้วออก เพราะในส่วนนี้จะได้รับการช่วยเหลือจากองค์การทหารผ่านศึกคนละ 3,500 บาทต่อเดือน  
 
 ด้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวดำเนินการเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ประธานพิจารณาเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อไป พร้อม ฝากไปยังทหารผ่านศึกทุกท่าน ว่ากรรมาธิการจะทำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ จะรวบรวมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประมาณ 20 ท่าน เพื่อร่างพระราชบัญญัติทหารผ่านศึก เพื่อช่วยเหลือเรื่องเงินให้กับทหารผู้ที่เคยผ่านศึก โดยจะยื่นในรัฐบาลนี้ แต่หากไม่ทันจะบรรจุเป็นนโยบายพรรคในการเลือกตั้งคราวถัดไป 
  			        | 
   
 
								
								
								
								
								
								 | 
							
																	
																	
																	
																	
															 | 
					
					 
						|  
															 
  
															
   
     
       
         
           
             
               สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  
                  ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท  
                   เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 
                                    โทร : 0 2244 2500 
                  e-Mail : webmaster@parliament.go.th 
                   | 
             
             
               
																							
								
								| จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า | 
								 
								 								
								 
															ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562 
															 | 
             
          
          | 
       
        | 
       
          | 
       
          | 
       
          | 
     
  
  
													 |