วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 11.15 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายไชยา พรหมา ประธานคณะ กมธ.ศึกษา การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย รับยื่นหนังสือจาก นายยศวริศ ชูกล่อม เพื่อขอให้ตรวจสอบการทุจริต ในการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) (AOT) กรณีการทำสัญญาค้ำประกันรายได้ร้อยละ 90 และ เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน ได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล ในโครงการงานจ้างให้บริการระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System : CUPPS) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาจ้าง งบประมาณ 8,619,899,751 บาท และโครงการงานจ้างงานให้บริการระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System, CUPPS) : 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินดอนเมือง , ภูเก็ต , หาดใหญ่ , เชียงใหม่ และแม่ฟ้าหลวงเชียงราย สัญญาจ้าง งบประมาณ 7,602,135,096 บาท รวมงบประมาณสัญญาจ้างทั้งสองโครงการ 16,221 ล้านบาท โดยมีการค้ำประกันรายได้ให้เอกชนร้อยละ 90 (14,000 ล้าน) หากสนามบินปิดหรือผู้โดยสารไม่ได้ตามเป้า บริษัท AOT จะเสียหายทั้งหมด เมื่อครบสัญญาค้ำประกัน มีการล็อกสเปค จัดฮั้วทำราคากลาง การกำหนดสัดส่วนรายได้ที่ไม่เป็นธรรม เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบริษัทเอกชนได้สัดส่วนผลประโยชน์อย่างมหาศาล และใช้เทคนิคล็อกสเปค Software, จ้างเจาะจง, วางแผนผูกขาดทุกสนามบินในอนาคต เพราะทุกสนามบินต้องใช้ Software บริหารจัดการงานในสนามบินได้เพียงยี่ห้อเดียว ไม่ได้มีการสืบราคากลางแยกแต่ละระบบงาน เพื่อนำราคาทั้งหมดมารวมเป็นราคากลาง แต่ใช้วิธีการสืบราคากลางจากการเก็บจากค่าตั๋วผู้โดยสารในต่างประเทศ ไม่ได้มีรายการระบุแยกรายการค่าใช้จ่ายของแต่ละระบนงาน ไม่ได้มีการทำราคากลาง ปล่อยให้บริษัทเอกชนเป็นผู้กำหนดราคาทั้งหมด อีกทั้ง เป็นโครงการสัญญาจ้างเหมาที่มีการทุจริตกันอย่างมโหฬารปล่อยให้เอกชนได้สัดส่วน 20 บาท โดยอ้างว่าเป็นการจ้างเหมา เป็นภาระและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้โดยสาร หรือ ผู้ใช้บริการสายการบินต้องรับภาระค่าบริการที่บวกเข้าไปไว้ในตั๋วผู้โดยสาร ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าบริการสนามบินซ้ำซ้อน กับระบบงานคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า จึงนำเรื่องดังกล่าว เพื่อตรวจสอบการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว และ ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลบริษัท AOT โดยตรง และเป็นผู้แต่งตั้งบอร์ด AOT รวมถึงผู้บริหารที่ มีส่วนเกี่ยวข้องในการอนุมัติสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรมต่อหน่วยงานของรัฐ  และนำหน่วยงานของรัฐไปถือความเสี่ยงเป็นภาระส่งผลต่อต้นทุนค่าตั๋วผู้โดยสารเครื่องบิน และนำคนผิดมารับผิดชอบ ทบทวนยกเลิกสัญญาจ้างกรณีทำสัญญาค้ำประกันรายได้ ส่อทำให้รัฐหรือหน่วยงานรัฐเสียเปรียบ

นายชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า จะนำเข้าสู่กระบวนการการตรวจสอบตามที่มีข้อร้องเรียนมา ในนามของฝ่ายค้านเรื่องใดที่เกี่ยวกับงบประมาณของแผ่นดิน ผลประโยชน์ของประชาชน และการบริหารราชการแผ่นดิน จะทำการตรวจสอบเรื่องนั้นอย่างเข้มข้น โดยใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรเบื้องต้นจะนำเข้าสู่ คณะ กมธ.ศึกษา การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ว่างบประมาณดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประชาชนจริงหรือไม่ และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตามที่ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี โดยจะมีการสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อปกป้องบ้านเมือง ทรัพย์สินของประเทศชาติ ภาษีอากรของประชาชน จะมีการตรวจสอบละเอียดต่อไป

ด้านนายไชยา พรหมา กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่คณะ กมธ. และจะพิจารณาโดยเร็ว โดยจะติดตามตรวจสอบอย่างเร่งด่วน